พิมเป็นเด็กสาวอายุราวๆ 15-16 ปี เธอเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 หน้าตะสะสวยถูกใจ นิสัยเรียบร้อย พูดน้อย น่ารัก น่าทะนุถนอม เรารู้จักกันเพราะผมย้ายบ้านมาอยู่ต่างจังหวัด ด้วยเหตุที่ว่าถูกย้ายงานมาที่นี่ ผมทำงานราชการในอำเภอแห่งหนึ่งครับ อยากลองอยู่ในที่ๆ เขาเรียกว่าบ้านนอกดูบ้าง เลยลองมาขอเช่าบ้านหลังเล็กๆบรรยากาศดีๆ ติดกับท้องนาท้องไร่ ไม่ห่างไกลตัวเมืองมาก ที่สำคัญคือผมและพิมอยู่บ้านติดกันครับ
ตัวผมอายุ 35 มีภรรยา 1 คนอยู่อีกจังหวัดซึ่งเธอไม่ได้ตามมาเพราะต้องคอยรับส่งลูกชายไปโรงเรียน และดูแลแม่ที่กำลังป่วย งานที่ผมทำมีวันหยุดเสาร์-อาทิตย์และผมมักจะใช้เวลาว่างไปนั่งเล่นรับลมเย็นๆ มองท้องนาหน้าบ้านของพิมพ์ ซึ่งผมสนิทกับคนในครอบครัวของพิมมากครับ
ส่วนพิมเองก็มักจะคอยเสิร์ฟน้ำทักทายผมด้วยการไหว้อยู่เสมอ คงต้องยอมรับว่าผมถูกตาต้องใจแม่สาวน้อยคนนี้แหละครับ ผมเลยโกหกเธอว่าผมอายุ 29 ช่วงอายุห่างกันน้อยกว่าเดิมทำให้พิมรู้สึกสนิทใจกว่าเก่า แน่นอนว่าผมเดินหน้าจีบเธออย่างมีชั้นเชิง ทั้งที่รู้ว่าตัวเองมีเมียแล้ว ในตอนนั้นผมอยากเก็บพิมไว้เป็นคนในความลับแล้วเลี้ยงดูเธออย่างดี เป็นนิสัยที่แย่ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างนะครับ
และแล้วแผนการของผมก็ดำเนินการไปได้จนสำเร็จลุล่วง ผมจีบพิมสำเร็จจากการอาสาไปส่งเธอที่โรงเรียนทุกวันเพราะโรงเรียนที่เธอเรียนนั้นอยู่ติดกับที่ทำงานของผม คุณตาคุณยายของพิมก็รับรู้และไม่ได้ขัดข้องหรือมีปัญหาแต่ประการใด
ในวันหยุดสุดสัปดาห์ช่วงหนึ่งผมและพิมพากันไปนั่งเล่นที่กระท่อมปลายนา จู๋จี๋ดูดี๋กันตามปกติ ไม่ค่อยมีผู้ใหญ่มาสนใจเท่าไรเพราะคิดว่าผมโตพอที่จะรู้ว่าอะไรควรไม่ควร แต่เปล่าเลยครับ ผมไม่ใช่คนดีอะไร ดังนั้นการไปนั่งเล่นด้วยกันสองต่อสองช่วงเย็นย่ำในวันนั้นเป็นเหตุให้เราสองคนได้เสียกัน โดยที่พิมเองก็เต็มใจบ้างไม่เต็มบ้าง
“พิม พี่ขอได้ไหม” ผมถามขึ้นในขณะนอนหนุ่นตักพิม เธอก้มหน้ามองผมขมวดคิ้วเป็นปมด้วยความสงสัย
“ขออะไรคะ”
“ขอเอากับพิมได้ไหม เราเป็นแฟนกันแล้วนะ”
“จะดีหรอคะ พิมยัง…”
“พี่อยากให้พิมเข้าใจพี่ พี่สัญญาจะดูและพิมอย่างดี จะรับผิดชอบพิม นะ นะ นะ” ผมตัดบทอ้อนวอนขอ
“พิมก็กลัวนะคะ แต่จะลองเชื่อใจพี่ดู”
“พี่สัญญาจะทำเบาๆ” ว่าจบเหมือนกับเลือดขึ้นหน้า พระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้ามีแสงสลัวๆ ผมลุกขึ้นนั่งจับผมทัดหูประทับพิมก่อนจูบลงบนหน้าผากไล่มาถึงแก้มวนมาที่ปากอวบอิ่ม พิมดูเคอะเขิน เธอไม่แม้แต่จะจูบตอบ ทำตัวแข็งทื่อนั่งนิ่งเสียงหัวใจเต้นดังตุบๆ ผมเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้เธอเหมือนกัน
ผมเริ่มรุกพรมจูบไปตามเรือนร่างของพิม สูดดมกลิ่นความหอมของเนื้อสาวตามซอกคอและเนินหน้าอก กลิ่นเนื้อมันช่างละมุนจริงๆ ผมช่วยเธอปลดกระดุมเสื้อออกจนเห็นหน้าอก ต่อด้วยการดันบราสีดำขึ้นเหนืออก หัวนมเธอสีน้ำตาลอมชมพูอ่อนๆน่าฟัดมากครับ ผมเลยจัดการแกล้งขบยอดอ่อนเบาหยอกเย้าทั้งดูดทั้งเลียจนพิมห่อไหล่เพราะเขินอาย
“พอแล้วค่ะ พิมอาย”
“พี่อยากจะเห็นทั้งหมด ทั้งตัวของพิมเลย ยากให้พิมเป็นของพี่คนเดียว” ว่าจบผมก็เริ่มสัมผัสที่ขาเรียวรูดขึ้นจากน่องมายังใกล้จุดสำคัญ ตอนนั้นผมใจร้อนมากใช้มือแหวกกางเกงขาสั้นเข้าไปรูดหีพิมเล่น เธอหดขาเพราะความเขินอายอีกเช่นเคย ทว่าผมไม่ยอมแพ้ระดมจูบเรียวปากเอิบอิ่มไปพร้อมๆ กับการใช้นิ้วเขี่ยหีให้สาวน้อย
น้ำเสียวเธอออกมาเยอะกว่าที่คิด เมื่อเห็นแบบนั้นแล้วผมจึงถอดรูดซิบกางเกงตัวเองควักควยออกมาให้เธอชื่นชม พิมหันมองเพียงเล็กน้อยแล้วหลับตาปี๋ ผมจัดท่าให้พิมนอนราบไปกับพื้นแล้วถ่างขาออก เราเย็ดกันคากางเกงเพราะกลัวว่ามีคนมาเห็นแล้วใส่เสื้อผ้าไม่ทัน ครั้งแรกที่ผมเริ่มสอดหัวควยเข้าไปในรูหีเธอ มันยากเย็นมากครับ สอดเข้าไปได้นิดเดียวทั้งที่น้ำหล่ออื่นออกมาเยอะมาก
เราเลยลองจัดท่ากันใหม่ให้พิมพ์หายเกร็งสุดท้ายเข้าได้ไม่มีปัญหา แต่ว่าต้องแช่ไว้สักพักเพื่อรูหีเธอนั้นปรับตัวได้ ผมเริ่มแทงเป็นจังหวะช้าๆเข้าออกพิมพยักหน้าหงึกๆ บอกเธอไว้ มีน้ำตาเอ่อคลอรอบดวงตาเล็กน้อย เห็นแล้วก็นึกสงสาร แต่ถ้าครั้งแรกพลาดครั้งต่อไปเธอจะเข็ดกับเรื่องเซ็กส์ ผมเลยยัดค้างไว้สักพักแล้วใช้นิ้วคลึงวนที่คลิตอริสจนแน่ใจว่าพิมนั้นเสร็จจริงๆ
เธอบอกว่าตอนที่ผมทำมันรู้สึกดีมากๆ ผมเองก็ชอบที่หีพิมตอดผมรัวๆ คราวนี้จังหวะรักเริ่มบรรเลงขึ้นอีกครั้ง ผมเด้าช้าๆช่องคลอดแน่นๆนี่มันฟินโคตรๆ เสียวจนตัวแทบแตก ที่สำคัญเราได้กันแบบสดๆ พอใกล้จะเสร็จผมกระเด้งซอยแรงขึ้นนิดหน่อยเพราะกลัวเธอเจ็บ ไปๆมาตอนนั้นผมเอาออกไม่ทันครับทำน้ำแตกใส่หีพิมเต็ม น้ำขาวๆ ไหลเยิ้มออกมา เป็นความผิดพลาดที่โคตรฟิน สุดท้ายเลยซื้อยาคุมฉุกเฉินมาให้เธอกินแทน เปิดซิงสาวน้อยบ้านนานี่มันทั้งเสียวทั้งตื่นเต้นจริงๆครับ แต่การแตกในใส่คนอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาแบบนั้นไม่ค่อยดีเท่าไร อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างผมนะ
